ค้นพบ 3 ข้อจำกัด หลังจากเข้าใจวิธีการทำงานของลูกค้า 

ทางทีมงาน SCGP ได้เริ่มสอบถามวิธีการเก็บข้อมูลแรงสั่นสะเทือน (Vibration) จากเครื่องจักรหมุนและมอเตอร์อุตสาหกรรมทั้งปั๊ม มอเตอร์ เกียร์ ฯลฯ ที่มีอยู่ทั้งโรงงาน โดยพบว่าวิธีวัดแรงสั่นสะเทือนแบบ Manual ในปัจจุบันทำให้เจ้าหน้าที่เดินตรวจวัดได้แค่ 1-2 ครั้งต่อวัน หรือบางเครื่องจักรเราไปวัดแค่ 1 ครั้งต่อสัปดาห์ เพื่อประเมินสุขภาพเครื่องจักร ซึ่งแสดงให้เห็นข้อจำกัด ดังนี้ 

1. ความรวดเร็วและความแม่นยำของข้อมูลลดลง เนื่องจากเจ้าหน้าที่ต้องเดินตรวจและเก็บข้อมูลทีละเครื่องทำให้อาจพลาดการเก็บค่าเครื่องจักรที่แสดงอาการในภายหลัง 
2. ความไม่ต่อเนื่อง สม่ำเสมอของข้อมูล ที่เกิดจากการตรวจวัดค่าในบางจุดของโรงงานเข้าถึงยาก ไม่ปลอดภัย และเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุในระหว่างเก็บข้อมูล 
3. ขาดบุคลากรวิเคราะห์ข้อมูลแรงสั่นสะเทือนหลังจากที่เก็บข้อมูลมาได้แล้ว ทำให้ระบุปัญหาไม่ชัดเจน หรือบางทีต้องส่งข้อมูลไปให้นักวิเคราะห์ภายนอก ซึ่งใช้เวลานานขึ้นกว่าจะรู้ผลลัพธ์ 

โดยทั้ง 3 ข้อจำกัดทำให้เกิดความล่าช้าในการตัดสินใจและยังทำให้เครื่องจักรเสียหาย (Breakdown) โดยไม่คาดคิด

เปลี่ยนวิธีเก็บข้อมูลให้ Real-Time ขึ้น ด้วย Wireless Vibration Sensor เชื่อมต่อ IoT  

จากข้อจำกัดที่เกิดขึ้นเมื่อตรวจวัดแรงสั่นสะเทือนแบบ Manual ทางทีมงาน SCGP ได้เสนอให้โรงงานติด Wireless Vibration Sensor เซ็นเซอร์ไร้สาย ที่ใช้อุปกรณ์น้อยและลดการเดินสาย เพื่อลดงานการเดินตรวจแรงสั่นสะเทือนของเครื่องจักรของเจ้าหน้าที่ ซึ่งอาจทำให้ข้อมูลคลาดเคลื่อน โดยได้เสนอให้ติด Wireless Vibration Sensor บนจุดวิกฤตกว่า 50 จุด เพื่อเก็บค่า Overall Vibration แบบอัตโนมัติ ทั้งในช่วงกลางวันและกลางคืน รวมถึงช่วงหลังเลิกงาน หากเครื่องจักรผิดปกติและเสี่ยงที่จะเกิด Breakdown ตัวเซ็นเซอร์ (Sensor) จะส่งข้อมูลแรงสั่นสะเทือนที่เก็บค่าได้ผ่านอุปกรณ์ IoT ไปเก็บไว้ที่ระบบ และทีมบำรุงรักษาในโรงงานสามารถเข้าถึงข้อมูลแรงสั่นสะเทือนที่เก็บค่านั้นได้ตลอด 24 ชั่วโมง ผ่านเว็บเบราว์เซอร์ ระบบแจ้งเตือนอัจฉริยะผ่านอีเมล และแอปพลิเคชันไลน์ (LINE Application) ซึ่งทำให้ทีมบำรุงรักษา ได้รับข้อมูลสำคัญแบบ Real-Time เพื่อการดูแลและแก้ไขปัญหาได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำมากยิ่งขึ้น รวมถึงเพิ่มความปลอดภัยจากการลดความจำเป็นในการเข้าพื้นที่เสี่ยงเพื่อวัดค่าแรงสั่นสะเทือนที่เครื่องจักรบางตัว 

วิเคราะห์ข้อมูลมากมายด้วย AI ปลดล็อคความท้าทายที่ยิ่งใหญ่ในการแก้ไขปัญหาเครื่องจักรหยุดทำงานได้รวดเร็วขึ้น 

ด้วยข้อมูลมหาศาลที่ได้รับอย่างต่อเนื่องผ่าน Wireless Vibration Sensor ที่เชื่อมต่อ IoT ทำให้โรงงานมีข้อมูลตัวเลขเก็บในระบบมากมาย แต่ข้อมูลเหล่านั้นจะไม่มีความหมายหากขาดนักวิเคราะห์ข้อมูลไป ทาง SCGP จึงได้เสนอ บริการ RaaS (Reliability as a Service) โดยนำข้อมูลที่ตรวจวัดได้มาเข้าระบบ AI (Artificial Intelligence) วิเคราะห์ร่วมกับฐานข้อมูลสาเหตุความสั่นสะเทือน โดย AI (Artificial Intelligence) นี้เป็นอีกหนึ่งจุดเด่นและความภาคภูมิใจของทีมงาน SCGP ที่ได้รับการพัฒนาโดยทีมผู้เชี่ยวชาญของ SCGP ที่มีประสบการณ์ในการดูแลเครื่องจักรด้วยการวิเคราะห์การสั่นสะเทือนมากกว่า 20 ปี และมีประสบการณ์ในการพัฒนา AI มากกว่า 5 ปี จาก 50,000,000 ข้อมูลที่มีในระบบ และ 7,000 เซ็นเซอร์ที่ดูแล ทำให้สามารถหา Pattern ของปัญหาผ่าน Pattern Recognition ได้แม่นยำมากขึ้น ช่วยให้ดูข้อมูลพร้อมระบุปัญหาได้ในเวลาเดียวกัน กล่าวได้ว่าผลลัพธ์การลดต้นทุน มาจากการระบุปัญหาได้อย่างแม่นยำและวิธีแก้ไขที่ถูกจุดและรวดเร็ว